0. First Love: September 2006

Saturday, September 30, 2006

ความหมายของตัวเลขในศาสนาคริสต์

เลขหนึ่ง (One) เป็นสัญลักษณ์ของเอกภาพ

เลขสอง (Two) แสดงถึงคุณลักษณะสองประการในองค์พระคริสต์ คือความเป็นมนุษย์และความเป็นพระเจ้า

เลขสาม (Three) เป็นตัวเลขที่พิธากอรัสเรียกว่า “ตัวเลขที่สมบูรณ์แบบ” เพราะประกอบด้วยจุดเริ่มต้น จุดกลึ่งกลาง และจุดจบ ในคริสตศาสนาตัวเลขนี้กลายเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ หมายถึงพระตรีเอกานุภาพ อันประกอบด้วย พระบิดา พระบุตร และพระจิต และระยะเวลาสามวันที่พระคริสต์ทรงอยู่ในอุโมงค์เก็บพระศพ

เลขส ี่ (Four) โดยทั่วไปเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญผู้บันทึกพระคริสตประวัติ (Evangelist) ทั้งสี่ท่าน

เลขห้า (Five) เป็นสัญลักษณ์ของบาดแผลห้าแห่งซึ่งพระคริสต์ทรงได้รับจากการตรึงกางเขน

เลขหก (Six) เนื่องจากพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งทั้งมวลเสร็จสิ้นในหกวัน เลขหกจึงเป็นตัวเลขแห่งการสร้างสรรค์และความเสร็จสมบูรณ์เป็นสัญลักษณ์ของมหิทธานุภา พ ความศักดิ์สิทธิ์ พระปัญญา ความรัก ความเมตตา และความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า

เลขเจ็ด (Seven) เป็นตัวเลขที่แสดงถึงความเมตตากรุณาและพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ นักเขียนในยุคแรกใช้เลขเจ็ดเป็นตัวเลขแห่งการสร้างสรรค์และความเสร็จสมบูรณ์เช่นเดีย วกับเลขหก ดังจะเห็นได้จากข้อความในพระคริสตธรรมคัมภีร์หลายตอน อาทิ เมื่อตอนที่เพื่อนของโจบ (Job)26 มาปลอบโยนโจบพวกเขา “นั่งอยู่กับโจบเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน” (“โจบ” 2 : 13) นอกจากนี้ในพระ คริสตธรรมคัมภีร์ ยังกล่าวถึงจาคอบ (Jacob) ว่าแสดงการยอมตนอยู่ใต้พวกพี่ชายด้วยการโค้งคำนับเจ็ดครั้ง กล่าวถึงของขวัญที่จะได้รับจากพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เจ็ดเท่า บาปหรือความชั่วเจ็ดประการ และความสุขกับความทุกข์เจ็ดประการของพระนางมารีย

เลขแปด (Eight) เป็นตัวเลขแห่งการฟื้นคืนพระชนม์เพราะพระคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ในวันที่แปดหลังจาก เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเลม ด้วยเหตุนี้อ่างน้ำมนต์ที่ใช้ในพิธีแบพติสม์จึงมักทำเป็นรูปแปดเหลี่ยม

เลขเก้า (Nine) เป็นตัวเลขของพวกเทวทูต เพราะในพระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวไว้ว่า กลุ่มเทวทูตที่ร้องเพลงประสานเสียงมีทั้งหมดเก้าองค์

เลขสิบ (Ten) เป็นจำนวนของพระบัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้กับโมเสส พระบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นที่รู้จักกันในนามของพระบัญญัติสิบประการ (Ten Commandments)

เลขสิบสอง (Twelve) เป็นจำนวนของอัครทูตผู้เผยแผ่พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าในยุคแรก (Apostles) จึงเป็นตัวเลขที่นิยมใช้กันในสัญลักษณ์ศาสนาคริสต์ บางครั้งเลขสิบสองใช้เป็นสัญลักษณ์ของคริสจักรทั้งหมด

เลขสิบสาม (Thirteen) เป็นตัวเลขที่แสดงถึงความไม่มีศรัทธาและการทรยศโดยมีที่มาจากตอนที่พระคริสต์ทรงเสวย พระกระยาหารมื้อสุดท้าย มีผู้เข้าร่วมโต๊ะเสวยทั้งหมด 13 ท่าน คือ องค์พระคริสต์ และสาวกอีก 12 ท่าน รวมทั้งจูดาส์ผู้ตกลงใจทรยศต่อพระเยซู

เลขสี่สิบ (Forty) เป็นสัญลักษณ์ของระยะเวลาที่ชนชาติอิสราเอลถูกลงทัณฑ์ โดยต้องเร่ร่อนไปตามแถบถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี และต้องตกเป็นทาสของพวกฟิลิสตินส์เป็นระยะเวลาเท่ากัน โมเสสอยู่บนเขาซีนายเป็นเวลา 40 วัน ฝนที่ตกลงมาคราวน้ำท่วมโลกตกอยู่เป็นเวลา 40 วัน 40 คืน หลังจากพระคริสต์ทรงรับศีลแบพติสม์จากนักบุญจอห์นแล้วก็ได้ประทับอยู่ในถิ่นทุรกันดา ร 40 วัน ในช่วงเวลานี้พญามารพยายามชักชวนให้ทรงละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า ฤดูถือบวชซึ่งมีระยะเวลา 40 วันในแต่ละปีจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้ บางครั้งเลขสี่สิบจึงใช้เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพแห่งศาสนจักรผู้ต่อสู้กับความชั่วร้าย

เลขหนึ่งร้อย (One Hundred) เป็นตัวเลขแห่งความอุดมสมบูรณ

เลขหนึ่งพัน (One Thousand) ครั้งหนึ่งถือกันว่าเลขหนึ่งพันเป็นตัวเลขที่แสดงถึงความเป็นอมตะ เนื่องจากเลขหลักต่อไปเป็นภาษาอังกฤษทำได้โดยการเติมจำนวนตัวเลขเข้าไปข้างหน้าหลักพ ันเช่น 10,000 เท่ากับสิบพัน (ten thousand) 100,000 เท่ากับหนึ่งร้อยพัน (one hundred thousand) ฯลฯ

Monday, September 18, 2006

Do you know?
Cake Can Guess Your Character
เขากลับมาอีกแล้วคราวนี้เอาใจคนที่ชอบของหวานเลยนะ
รู้เปล่าว่าเค้กที่พวกเราชอบกันเนี่ยบอกได้ถึงบุคลิกภาพที่ซ่อนเร้นภายในตัวเราได้น
มาดูดีกว่าว่าเค้กแบบไหนตรงกับเธอที่สุด..
เค้กวานิลลาโรยช็อกโกแลตไอซิ่ง
เธอเป็นคนรักสนุก ตลกโปกฮาได้ทุกเรื่อง ติดที่จะหยิ่ง
ไปหน่อยแถมยังเป็นคนที่หัวสูงอีกตะหาก จิตใจโลเลและลังเล
แต่เธอจะมีเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สามารถทำให้คนอยากอยู่ใกล้
ใครที่ต้องการเพื่อนแท้เพื่อนตายต้องรีบหาคนที่ชอบกินเค้กแบบนี้ไว้เลย
เพราะเขาคนนี้จะเป็นเพื่อนตายของเธอได้แน่
แครอทเค้ก
เธอเป็นคนชอบหัวเราะรักสนุกมีความสุขกับทุกอย่าง
ใครได้อยู่กับเธอเขาจะถือว่านั่นเป็นช่วงที่มีความสุขสุดๆ
คนส่วนมากจะหลงใหลเธอเอามากเลยเพราะเธอมันเป็น
พวกความอบอุ่นแผ่กระจายให้คนรอบข้างและด้วยความ
ที่เธอเป็นคนช่างพูดด้วยจึงมีคนอยากไปไหนมาไหนกับ
เธอทุกที่ทุกเวลา ไม่แปลกถ้าคนอย่างเธอจะมีเพื่อนเยอะ
เค้กบราวนี่
อยากจะบอกว่าเธอออกจะเป็นคนแปลกกว่าทุกคนหน่อย
เพราะเธอเป็นพวกชอบเสี่ยง ชอบความท้าทายต่างๆนานา
มีความคิดสร้างสรรค์และหวังที่จะเป็นที่ 1ในทุกเรื่องอยู่เสมอ
เวลาโกรธนะเธอเอ๋ยเธอเนี่ยน่ากลัวสุดๆเลยนะเนี่ย
ความซื่อสัตย์ในตัวเธอมันจะมีน้อยอยู่ซักหน่อยชอบคิดอะไร
ไปเรื่อยเปื่อย ส่วนมุกตลกของเธอก็มักจะแปลกจนทำให้เพื่อน
ตาค้างไปได้เหมือนกัน
เค้กไอศกรีม
เธอเป็นคนชอบกีฬาเป็นชีวิตจิตใจนั่นเลยทำให้เธอเป็น
พวกไม่ชอบการควบคุมแต่จะให้ความสำคัญกับความต้องการของ
ตัวเองก่อนและเธอก็เป็นพวกติดจะหรูหราซะเหลือเกิน
เค้กสตรอว์เบอร์รี่
เธอเป็นพวกโรแมนติกสุดๆ อบอุ่นน่ารัก
แถมช่างเอาอกเอาใจผู้อื่นแทบจะไม่เคยว่าร้ายเหน็บแนม
ใครเลย ภายนอกอาจจะดูเย็นชาแต่ภายในนั้นแสนจะ
อบอุ่น เป็นคนที่ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงและไม่ชอบ
ที่จะทำตามใครด้วย เธอมันเป็นพวกยิ้มหรือหัวเราะ
ยาก หัดยิ้มดูบ้างก็จะดีนะ...
ตรงบ้างมั้ยกับสิ่งที่เอามาฝาก..แต่ก็นะกินแบบไหน
มันก็อร่อยเหมือนกันแหละจริงมั้ย โฮะๆๆ

Friday, September 15, 2006

พระราชวังแวร์ซายน์

พระราชวังแวร์ซายน์ อยู่ในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เป็นพระราชวังที่สวยงามน่า

มหัศจรรย์ยิ่งแห่งหนึ่งของโลกสมัยปัจจุบัน สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส

มีอัลเครด เลอ นอสเตอร์เป็นสถาปนิกลงมือสร้างเมื่อ ค.ศ. 1661 สร้างอยู่นาน 30 ปี จึงแล้วเสร็จ

สิ้นเงินค่าก่อสร้าง

500,000,000ฟรังก์ ใช้คนงาน 30,000 คน ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นแบบอย่างและ

ศิลปกรรมก่อสร้างที่งดงามมาก ภายในพระราชวังแวร์ซายน์ แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ เช่น ห้องบรรทม

ห้องเสวย ห้องสำราญ ห้องทรงพระอักษร ห้องโถง ห้องออกว่าราชการ ทุกห้องมีเครื่องประดับประดาล้วน

แต่มีค่าสูงมากมายทั้งวัตถุ และภาพเขียนที่มีชื่อเสียง ห้องที่มีชื่อมากที่สุดของพระราชวังแห่งนี้ก็คือ

ห้องกระจกซึ่งเคยใช้เป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมันในมหายุทธสงคราม

โลกครั้งแรกและเป็นที่ใช้ลงนามในเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศสในมหายุทธสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

ในการทำสงครามใหญ่ทุกครั้งฝรั่งเศสจะประกาศให้กรุงปารีสเป็นเขตปลอดสงครามคือไม่มีทหารตั้งอยู่

ทั้ง นี้เพื่อรักษา
ไม่ให้พระราชวังแห่งนี้ต้องได้รับความเสียหายจากการโจมตีของข้าศึกไม่ว่าโดยทางใด


ถ้าเปรียบรักกับ...ฟัน
มาดูดิ๊ว่ารักของเธอเหมือนกับฟันแบบไหน..เริ่มเลยนะ
รักคงมั่น คือ...ฟันแท้
รักร่อแร่ คือ...ฟันโยก
รักโสโครก คือ...ฟันดำ
รักถลำ คือ...ฟันเหยิน
รักหมางเมิ คือ...ฟันห่าง
รักร้าง คือ...ฟันหลอ
รักหงิกงอ คือ...ฟันกุด
รักบริสุทธิ์ คือ...ฟันขาว
รักชั่วคราว คือ...ฟันปลอม
รักอ่อนซ้อม คือ...ฟันร่วง
รักสีม่วง คือ...ฟันเก
รักจำเจ คือ...ฟันซ้อน
รักสลอน คือ...ฟันแทรก
รักแรก คือ...ฟันน้ำนม
รักระบม คือ...ฟันผุ
รักคิกขุ คือ...ฟันกระต่าย
รักสลาย คือ...ฟันหลุด
รักชำรุด คือ...ฟันสึก
รักเจ็บลึก คือ...ฟันคุดดด
ตกลงได้ยังว่ารักเธอเหมือน...ฟันซี่ไหน...
ค่อยๆคิดนะ
เอามาให้ดูขำๆหวังว่าคงชอบ55

Wednesday, September 13, 2006




De Louvre

Le Louvre: palais et musée

Les frères Limbourg Le mois d'octobre avec le Louvre dePhilippe-Auguste au fondEnluminure

tiréedu calendrier du manuscritLes très riches heures du duc de BerryMusée Condé,château de

Chantilly

Giuseppe Castiglione Le Salon carré, en 1865,au musée du LouvreToile - H 0,69 m ; L 1,03 m

"Mouseîon : établissement où est conservée, exposée, mise en valeur une collection d'œuvres

d'art, d'objets d'intérêt historique, esthétique ou scientifique." (Larousse)

Le palais Château médiéval, palais des rois de France, musée depuis deux siècles, le palais du

Louvre développe son architecture sur plus de 800 années d'histoire.

Deux siècles de muséeFondé en 1793 par la République française, le musée du Louvre constitue,
avec l'Ashmolean Museum (1683), le musée de Dresde (1744) et le musée du Vatican (1784),

l'un des tout premiers musées européens.

Les collections Organisées en 7 départements, les collections du Louvre rassemblent des œuvres
datant de la naissance des grandes civilisations antiques du bassin méditerranéen jusqu' à la

civilisation occidentale du haut Moyen Age à la première moitié du XIXe siècle, affirmant ainsi sa
vocation encyclopédique.

Friends & Fans
พวกเรารู้เปล่าว่าความแตกต่างระหว่างเพื่อนและแฟนแตกต่างกันอย่างไร...ไปดูกันยิปปี้!
เพื่อนคือคนที่อยู่ปลอบเราเวลาที่เราอกหัก
แต่แฟนมีแต่หักอกเราแล้วจากไป
เพื่อนคือคนที่เรามีได้ทีเดียวหลายคนพร้อมกัน
แต่แฟนเรามีได้คนเดียว
เพื่อนคือคนที่หัวเราะเวลาที่เราบอกว่ามีแฟนหลายคน
แต่แฟนคือคนที่ร้องไห้ เมื่อรู้ว่าเรามีแฟนหลายคน
เพื่อนคือคนที่เราบอกได้ว่าเรามีแฟนกี่คน
แต่บอกแฟนไม่ได้ว่าเรามีคนอื่นอีก
เพื่อนคือคนที่เรากล้าทำอะไรบ้าๆบอๆให้เห็น
แต่กับแฟนเรามักเก็บซ่อนไว้
เพื่อนที่ดีหายากกว่าแฟนที่เลว
ส่วนแฟนที่ดียิ่งหายากเข้าไปใหญ่
เพื่อนที่เคยเป็นแฟนมาก่อนมักจะดีกว่าตอนที่เป็นแฟน
แต่แฟนที่เคยเป็นเพื่อนก็ไม่แน่ว่าจะดีเหมือนเดิม
เพื่อนจะไม่ค่อยระแวงเพื่อน
แต่แฟนมักจะระแวงเราไปหมด
ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมักจะยืนยาวกว่าการเป็นแฟน
เพราะฉะนั้นรักเพื่อนให้มากๆเพราะคนๆนั้นอาจเป็นเพื่อนแท้ของเรา

Tuesday, September 12, 2006

Mini cakes choco-noisette

Trop de taf au boulot ! Alors pour m'en remettre... mini cakes choco-noisette.

Pour 6 mini cakes ou 1 grand cake
80 g de beurre doux + 3 c à s d'huile de noisette (Monop)
(ou 100 g de beurre si vous n'avez pas d'huile de noisette)
150 g de sucre
80 g de bon chocolat noir (70%)
3 oeufs
100 g de poudre de noisette
120 g de Maïzena (fécule de maïs)
1/2 sachet de levure chimique
Pour le glaçage
80 g de sucre glace
20 g de poudre de cacao non sucré
1 c à c d'huile de noisette (seulement si vous en avez)

Préchauffer le four à 160°C
Dans un premier bol, travailler le beurre, l'huile de noisette et le sucre jusqu'à ce que le mélange
éclaircisse. Ajouter les œufs un à un et la poudre de noisette. Dans un deuxième bol, tamiser la
fécule de maïs et la levure, puis verser dans le premier bol. Lorsque le mélange est homogène,
ajouter le chocolat (préalablement fondu au micro-ondes / au bain-Marie).

Beurrer un moule à cake (ou 6 petits moules) et y verser la pâte. Mettre au four et laisser cuire
environ 40 minutes (20 à 25 minutes pour des moules individuels).

Pendant ce temps, préparer le glaçage en mélangeant le sucre glace et le cacao. Ajouter très
progressivement 2 ou 3 c à s d'eau et, si vous en avez, l'huile de noisette. Attention, le glaçage ne
doit pas être trop liquide.

Démouler et laisser refroidir sur une grille avant de glacer. Voilà, c'est prêt. C'est beau, c'est bon
et ça va mieux.

Sunday, September 10, 2006






Getting to the Louvre

MétroPalais-Royal-Musée du Louvre station.
BusThe following bus lines stop in front of the Pyramid: 21, 24, 27, 39, 48, 68, 69, 72, 81, 95, and the Paris Open Tour bus.
CarAn underground parking garage is available for those coming by car. The entrance is located on avenue du Général Lemonnier. It is open daily from 7 a.m. to 11 p.m.
BatobusGet off at the Louvre stop, quai François Mitterrand.
From Orly AirportTake the RER C train, direction Champs de Mars-Tour Eiffel, and get off at Saint-Michel-Notre-Dame. Walk to the place Saint-Michel and take bus no. 27, direction Saint-Lazare. Get off at the Louvre, in front of the Pyramid.
From Charles de Gaulle AirportTake the RER B train, direction Massy-Palaiseau, and change at Châtelet-les-Halles to line 14, direction Saint-Lazare. Get off at Pyramides station and walk to the Louvre from there (3 minutes). Alternatively, take Métro line 1 at Châtelet-les-Halles, and get off at Palais-Royal / Musée du Louvre.