0. First Love: November 2007

Monday, November 26, 2007

100 ปีพระราชวังสนามจันทร์


สำหรับพระราชวังสนามจันทร์ ประกอบไปด้วยพระที่นั่งและพระตำหนักต่างๆ อันมีชื่อคล้องจองกันได้แก่ พระที่นั่งพิมานปฐม พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ พระที่นั่งวัชรีรมยา พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ พระตำหนักทับขวัญ พระตำหนักทับแก้ว และอนุสาวรีย์ย่าเหล
จากวันนั้นถึงวันนี้ พระราชวังสนามจันทร์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนมีอายุครบรอบ 100 ปี ในปีนี้ ซึ่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาติให้สำนักพระราชวัง ร่วมกับจังหวัดนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินการจัด "งานฉลอง 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์" ขึ้น ระหว่างวันที่ 23 พ.ย.- 2 ธ.ค.50 ณ พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ซึ่งนอกจากเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้แล้ว ยังน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระ บาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นอีกด้วย
สำหรับการเฉลิมฉลองนั้น จะใช้พื้นที่ภายในพระราชวังสนามจันทร์เกือบทั้งหมด โดยเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมพร้อมสัมผัสบรรยากาศภายในวังยามค่ำคืน ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกในรอบ 100 ปี และในพิธีเปิดได้จัดให้มีขบวนแห่ยิ่งใหญ่ อลังการ 4 ขบวน คือ พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า ทั่วดินถิ่นนครปฐม มหาธีรราชเจ้าจอมราชันย์ และพระราชวังสนามจันทร์ 100 ปี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ การออกร้านสินค้า OTOP ที่นำชื่อเสียงมาสู่จังหวัด การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากโครงการส่วนพระองค์ การแสดงตำนานเสือป่า การแข่งขันฟุตบอลโบราณ เพื่อรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณที่รัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานกำเนิดสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและสันทนาการ การประกวดอีกมากมาย ฯลฯ
โดยในการจัดงานเฉลิมฉลองครบ 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์ในครั้งนี้ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน ในวันเสาร์ที่ 24 พ.ย. เวลา17.00 น.
สำหรับผู้เข้าร่วมงานในวันเปิดที่แต่งกายชุดลูกเสือชาวบ้านไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู สำหรับเด็กนักเรียนนักศึกษาในราคา 20 บาท ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระราชวังสนามจันทร์ โทร. 0-3424-4236-7


นี่คือภาพบรรยากาศและผองเพื่อน
















พระราชวังสนามจันทร์
พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไม่ไกลนัก มีเนื้อที่ประมาณ 888 ไร่ 3 งาน 4 ตารางวา เป็นพระราชวังที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นบนบริเวณที่คาดว่าเป็นพระราชวังเก่าของกษัตริย์สมัยโบราณที่เรียกว่า เนินปราสาท เพื่อเป็นสถานที่ประทับครั้งมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์และเมื่อบ้านเมืองถึงยามวิกฤต
ในปัจจุบัน พระราชวังสนามจันทร์อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546 คณะกรรมการอำนวยการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งมีสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นองค์ประธาน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย นายนาวิน ขันธหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ลิขิต กาญจนาภรณ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ได้
น้อมเกล้าฯ ถวายคืนพระราชวังสนามจันทร์แก่สำนักพระราชวัง

พระที่นั่งพิมานปฐม

เป็นพระที่นั่งองค์แรกในบริเวณของพระราชวังสนามจันทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้นแบบตะวันตกสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2450 พระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นที่ประทับ ที่ทรงพระอักษร ที่เสด็จออกขุนนาง ที่รับรองพระราชอาคันตุกะ และที่ออกให้ราษฎรเข้าเฝ้าฯ


พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์

เป็นพระที่นั่งโถงใหญ่ในพระราชวังสนามจันทร์ เป็นพระที่นั่งที่มีส่วนเชื่อมต่อกับใกล้เคียงคือพระที่นั่งวัชรีรมยา โดยหลังคาของพระที่นั่งทั้งสององค์นั้นเชื่อมต่อติดกัน เครื่องประดับตกแต่งหลังคาเหมือนกัน แต่หน้าบันทิศเหนือมีรูปจำหลักท้าวอมรินทราธิราชประทานพร ประทับอยู่ในพิมานปราสาทสามยอด พระหัตถ์ซ้ายประทานพร พระหัตถ์ขวาทรงวชิระ แวดล้อมด้วยบริวาร ประกอบด้วยเทวดาและมนุษย์ห้าหมู่ท้องพระโรงพระที่นั่งยกสูง 1 เมตร ตรงกลางยกพื้นรอบ อีก 3 ด้านลดชั้นต่ำลงมา 50 เซนติมตร และมีอัฒจันทร์สองฝั่ง มีประตูติดต่อกับพระที่นั่งวัชรีรมยา
พระที่นั่งองค์นี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นสถานที่จัดงานหลายอย่าง เช่น งานสโมสรสันนิบาต เสด็จฯออกพบปะขุนนาง เป็นสถานที่ฝึกอบรมกองเสือป่า และใช้เป็นที่แสดงโขนละครต่างๆ เนื่องจากพระที่นั่งองค์นี้กว้างขวางและสามารถจุคนเป็นจำนวนมาก จึงมีชื่อเรียกติดปากชาวบ้านว่า โรงโขน ซึ่งครั้งหนึ่งระองค์ได้เคยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระมหาเศวตฉัตรมาประดิษฐานไว้ภายในนี้ด้วย



พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์

ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสนามใหญ่ สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2451 โดยมีหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรร กฤดากร เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ จุดเด่นของพระตำหนักองค์นี้คือสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับปราสาท ซึ่งเป็นการผสมระหว่างศิลปะเรอเนซองส์ของฝรั่งเศส


พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์

เป็นพระตำหนัก ๒ ชั้น สร้างด้วยไม้สักทอง ทาสีแดง มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก ของประเทศทางตะวันตก แต่ได้มีการปรับปรุงองค์ประกอบบางส่วน ให้เหมาะกับภูมิอากาศแบบเมืองร้อน พระตำหนักองค์นี้ สร้างขึ้นคู่กับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ โดยมีฉนวนทางเดินทำเป็นสะพาน จากชั้นบนด้านหลังของพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ข้ามคูน้ำเชื่อมกับชั้นบนด้านหน้าของพระตำหนักมารีฯ สะพานดังกล่าวหลังคามุงกระเบื้อง และติดหน้าต่างกระจกทั้งสองด้าน ตลอดความยาวของสะพานที่เชื่อมติดต่อถึงกัน พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ และฉนวนสะพานเชื่อมพระตำหนัก เป็นกลุ่มอาคารที่พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากบทละครเรื่อง My Friend Jarlet ของ Arnold Golsworthy และ E.B. Norman ซึ่งทรงแปลบทละครเรื่องนี้เป็นภาษาไทยชื่อว่า “ มิตรแท้ “ โดยทรงนำชื่อตัวละครในเรื่องมาเป็นชื่อของพระตำหนัก

พระตำหนักทับแก้ว

เป็นอาคารตึกสองชั้น ในพระราชวังสนามจันทร์ เคยเป็นที่ประทับในฤดูหนาว ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ภายในอาคารมีเตาผิงและหลังคา มีปล่องไฟตามแบบตะวันตก เหนือเตาผิงมีภาพฝีพระหัตถ์ สีถ่าน รูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในระหว่างที่มีการซ้อมรบเสือป่า ทับแก้ว เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่ากองเสนาน้อยราบเบารักษาพระองค์อนึ่งที่ดินบริเวณเบื้องหลังทับแก้วประมาณ 450 ไร่ ได้กลายเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศิลปากร

พระตำหนักทับขวัญ

เป็นเรือนไทยภาคกลางที่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นแบบอย่างของสถาปัตยกรรมเรือนไทยชั้นครูที่ยังคงลักษณะของเรือนไทยภาคกลาง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อรักษาศิลปะบ้านไทยแบบโบราณและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีขึ้นพระตำหนักใหม่ เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2454 พระองค์ได้ประทับแรม ณ พระตำหนักองค์นี้เป็นเวลา 1 คืน และเมื่อมีการซ้อมรับเสือป่า พระตำหนักองค์นี้ใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่าราบหนักรักษาพระองค์ ปัจจุบัน ภายในพระตำหนักใช้จัดแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจด้านไทยศึกษาของพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

เทวาลัยคเณศร์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นศาลเทพารักษ์ เป็นที่ประดิษฐานพระคเณศร์ หรือพระพิฆเนศวร ซึ่งนับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง และเมื่อมองจาก พระที่นั่งพิมานปฐมจะเห็นพระปฐมเจดีย์ เทวาลัยคเณศร์และพระที่นั่งพิมานปฐมอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน

Thursday, November 22, 2007


London Bridge

London Bridge is a bridge in London, England over the River Thames, between the City of London and Southwark. It is between Cannon Street Railway Bridge and Tower Bridge; it also forms the western end of the Pool of London. London's original bridge made this one of the most famous bridge emplacements in the world. It was the only bridge over the Thames in London until Westminster Bridge was opened in 1750.

On the south side of the bridge is Southwark Cathedral and London Bridge station. On the north side is the Monument to the Great Fire of London and Monument tube station.

The bridge is designated part of the A3 road, maintained by the Greater London Authority,although the bridge is privately owned and maintained by the Bridge House Trust charity.

Tower Bridge is often mistakenly referred to as London Bridge.
The area between London Bridge and Tower Bridge on the south side of the Thames is managed by the London Bridge Business Improvement District (BID) Company.

Pont de Londres

Le pont de Londres (en anglais London Bridge) fut jusqu'en 1750, le seul pont qui, à Londres, enjambait la Tamise au niveau de la City pour rejoindre Southwark.

D'abord, un pont de bois existait déjà sous l'occupation romaine. Il fut remplacé par un ouvrage en pierre au XIIe siècle (construit de 1176 à 1209), et qui comportait 19 arches. Jusqu'en 1770, celui-ci était couvert de maisons, de boutiques et d'une chapelle. L'ouvrage était fortifié, et au-dessus de la porte donnant sur la rive sud, les têtes des condamnés exécutés étaient exposées, plantées au bout d'une pique.

En 1831, le pont de Londres fut de nouveau reconstruit en granit par John Rennie. L'édifice jugé trop étroit, fut démonté en 1969 et revendu aux Américains qui le remontèrent dans la ville de Lake Havasu City, dans le comté de Mohave (Arizona). Il fut lui-même remplacé par l'ouvrage actuel, inauguré en 1973 qui est l'œuvre de l'architecte Harold King et qui a fait de ce pont l'un des plus modernes de la ville.
Il ne doit pas être confondu avec le pont basculant
Tower Bridge.


Tuesday, November 20, 2007


Jour de l'an


Le jour de l'An est le premier jour de l'année d'un calendrier donné. Par extension le terme désigne aussi les célébrations de ce premier jour. Pour les calendriers solaires (comme le calendrier grégorien), la date du jour de l'An est fixe d'une année sur l'autre, alors qu'elle est dite mobile dans le cas des calendriers luni-solaire (comme le calendrier chinois).

Origines

Le nouvel an est une fête d'origine païenne qui vit le jour vers 46 avant notre ère, sous l'impulsion de Jules César qui décida que le 1er janvier serait le Jour de l'An. Les Romains dédiaient ce jour à Janus, dieu païen des portes et des commencements. Le mois de janvier doit son nom à Janus, qui avait deux visages : l'un vers l'avant, l'autre vers l'arrière.




New Year

The New Year is an event that happens when a culture celebrates the end of one year and the beginning of the next year. Cultures that measure yearly calendars all have New Year celebrations.

วันขึ้นปีใหม่

วันขึ้นปีใหม่ คือวันแรกของปี มักจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และนับเป็นวันสำคัญของปี ปัจจุบันกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่สากล ตามปฏิทินเกรกอเรียน และถือเป็นวันหยุดต่อมาจากวันสิ้นปี อย่างไรก็ตาม ในแต่ละชาติที่ใช้ปฏิทินแบบอื่น ก็จะมีวันขึ้นปีใหม่ที่แตกต่างกันไป เช่น วันตรุษจีน วันสงกรานต์ เป็นต้น ในประเทศไทย ทางราชการให้ถือเอาวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2484 เป็นต้นมา กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ ได้แก่ การทำบุญตักบาตรที่วัดหรือสถานที่ที่ทางราชการนิมนต์พระภิกษุสามเณรจากวัดต่างๆ มาเตรียมไว้ให้ มีการลงนามถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผู้ไปลงนามจะได้รับปฏิทินหลวงเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังอาจมีงานเลี้ยงภายในเครือญาติและมิตรสหาย ช่วงใกล้วันปีใหม่มักมีการส่งบัตร ส.ค.ส. และแจกจ่ายปฏิทินสำหรับปีใหม่เป็นของกำนัล

Monday, November 19, 2007

Noël


Noël est une fête chrétienne célébrant chaque année la naissance de Jésus de Nazareth, appelée Nativité. Cette fête donne lieu à des offices religieux spéciaux et à des échanges de cadeaux et de vœux. Dans l'année 354, Noël a été fixé officiellement au 25 décembre par le pape Libère. Parce que la plupart des Églises orthodoxes suivent toujours le calendrier julien qui présente un décalage de quatorze jours avec le calendrier grégorien désormais en usage officiellement, elles célèbrent Noël le 7 janvier du calendrier grégorien (c’est-à-dire le 25 décembre du calendrier julien). La popularité de la fête a fait que « Noël » est devenu aussi un prénom porté.


Calendriers julien et grégorien
Quand Jules César créa le calendrier julien, le solstice d'hiver fut fixé au 25 décembre. Mais la légère erreur du calendrier julien fit progressivement avancer solstices et équinoxes : au moment du Ier concile de Nicée de 325, le solstice tombait le 21 décembre, mais la Fête de la Nativité fut maintenue au 25 décembre, neuf mois après l'Incarnation, le 25 mars. En 354, le 25 décembre devint ainsi la date de la naissance de Jésus Christ, le 1er janvier, huit jours après la Nativité, la date de la Circoncision et le 2 février, quarante jours après Noël, celle de la
Purification de la Vierge Marie (Chandeleur). En 1582, le calendrier grégorien remit le solstice, qui avait continué d'avancer jusqu'au 11 décembre, au 21 décembre, pour respecter les décisions du Concile de Nicée et la réalité des saisons.
En
1582, où Pâques tombe un 11 mars, le pape Grégoire XIII décide de corriger le calendrier julien et le remplace par le calendrier grégorien, plus précis : il supprime les années bissextiles en trop, remet Pâques à l'équinoxe de printemps, retire les jours entre le 4 et le 15 octobre 1582 mais ne veut pas corriger Noël, qui tombe alors un 25 décembre, conformément au Concile, mais contrairement à la fête païenne romaine.


Thursday, November 15, 2007


Phra Pathom Chedi


Phra Pathom Chedi (Thai: พระปฐมเจดีย์) is the highest stupa in the world with a height of 127 m. It is located in the town Nakhon Pathom, Thailand.

The name Phra Pathom Chedi means Holy chedi (stupa) of the beginning. The stupa at the location is first mentioned in scriptures of the year 675, however archaeological findings date a first stupa to the 4th century. In the 11th century it was overbuilt with a Khmer style prang, which was later overgrown by the jungle. The ruin was visited several times by the later King Mongkut during his time as a monk, and after his coronation he ordered the building of a new and more magnificent chedi at the site. After 17 years of construction it was finished in 1870, and the population of nearby Nakhon Chai Si was ordered to move to the newly created town around the chedi.

In 2005 the building was submitted to the UNESCO as a future world heritage site.
องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐ ถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพ สักการะบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็น ประจำทุกปี

Monday, November 12, 2007


Takoyaki

Le takoyaki (たこ焼き, littéralement « pieuvre frite (ou cuite) ») est un mets de la cuisine japonaise et une spécialité d'Ōsaka, se présentant sous forme de 6-10 boulettes de pâte à crêpe contenant des petits morceaux de poulpe, cuites en moule, comme les gaufres.
En général, le takoyaki est vendu en kiosque pour être emporté ou consommé dehors. Dans la
région du Kansai, on le consomme au repas avec un bol de riz.




Takoyaki

Takoyaki (たこ焼き or 蛸焼, Takoyaki?) (literally fried or baked octopus) is a popular Japanese dumpling made of batter, diced octopus, tempura scraps (tenkasu), pickled ginger, konnyaku, and green onion, topped with okonomiyaki sauce, green laver (aonori), mayonnaise, and katsuobushi (fish shavings), originating from Osaka. Making takoyaki requires a takoyaki pan, a special frying pan made of cast iron with hemispherical molds. There is a similarly named dish called ikayaki but it is a broiled whole squid and bears no resemblance. "Yaki" is derived from "yaku" (焼く, "yaku"?) which simply means "




to bake or grill" in the Japanese language, and can be found in the names of other Japanese cuisine items such as teriyaki or sukiyaki.
Although takoyaki can easily be made at home if the equipment is available, it is usually considered to be
fast food and mostly sold on the streets. Frozen takoyaki are also sold, and there are restaurants in which customers can cook their own takoyaki at their tables. Takoyaki is especially popular in the Kansai region, but has risen in popularity in other parts of Japan. In the Kansai region, takoyaki is eaten as a side dish with a bowl of cooked rice. Elsewhere in Japan, it is eaten without rice as a snack food.