ในปัจจุบัน พระราชวังสนามจันทร์อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546 คณะกรรมการอำนวยการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งมีสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นองค์ประธาน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย นายนาวิน ขันธหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ลิขิต กาญจนาภรณ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ได้
น้อมเกล้าฯ ถวายคืนพระราชวังสนามจันทร์แก่สำนักพระราชวัง

เป็นพระที่นั่งองค์แรกในบริเวณของพระราชวังสนามจันทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้นแบบตะวันตกสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2450 พระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นที่ประทับ ที่ทรงพระอักษร ที่เสด็จออกขุนนาง ที่รับรองพระราชอาคันตุกะ และที่ออกให้ราษฎรเข้าเฝ้าฯ

เป็นพระที่นั่งโถงใหญ่ในพระราชวังสนามจันทร์ เป็นพระที่นั่งที่มีส่วนเชื่อมต่อกับใกล้เคียงคือพระที่นั่งวัชรีรมยา โดยหลังคาของพระที่นั่งทั้งสององค์นั้นเชื่อมต่อติดกัน เครื่องประดับตกแต่งหลังคาเหมือนกัน แต่หน้าบันทิศเหนือมีรูปจำหลักท้าวอมรินทราธิราชประทานพร ประทับอยู่ในพิมานปราสาทสามยอด พระหัตถ์ซ้ายประทานพร พระหัตถ์ขวาทรงวชิระ แวดล้อมด้วยบริวาร ประกอบด้วยเทวดาและมนุษย์ห้าหมู่ท้องพระโรงพระที่นั่งยกสูง 1 เมตร ตรงกลางยกพื้นรอบ อีก 3 ด้านลดชั้นต่ำลงมา 50 เซนติมตร และมีอัฒจันทร์สองฝั่ง มีประตูติดต่อกับพระที่นั่งวัชรีรมยา
พระที่นั่งองค์นี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นสถานที่จัดงานหลายอย่าง เช่น งานสโมสรสันนิบาต เสด็จฯออกพบปะขุนนาง เป็นสถานที่ฝึกอบรมกองเสือป่า และใช้เป็นที่แสดงโขนละครต่างๆ เนื่องจากพระที่นั่งองค์นี้กว้างขวางและสามารถจุคนเป็นจำนวนมาก จึงมีชื่อเรียกติดปากชาวบ้านว่า โรงโขน ซึ่งครั้งหนึ่งระองค์ได้เคยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระมหาเศวตฉัตรมาประดิษฐานไว้ภายในนี้ด้วย

พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์
ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสนามใหญ่ สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2451 โดยมีหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรร กฤดากร เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ จุดเด่นของพระตำหนักองค์นี้คือสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับปราสาท ซึ่งเป็นการผสมระหว่างศิลปะเรอเนซองส์ของฝรั่งเศส

พระตำหนักทับแก้ว
เป็นอาคารตึกสองชั้น ในพระราชวังสนามจันทร์ เคยเป็นที่ประทับในฤดูหนาว ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ภายในอาคารมีเตาผิงและหลังคา มีปล่องไฟตามแบบตะวันตก เหนือเตาผิงมีภาพฝีพระหัตถ์ สีถ่าน รูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในระหว่างที่มีการซ้อมรบเสือป่า ทับแก้ว เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่ากองเสนาน้อยราบเบารักษาพระองค์อนึ่งที่ดินบริเวณเบื้องหลังทับแก้วประมาณ 450 ไร่ ได้กลายเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศิลปากร
พระตำหนักทับขวัญ
เป็นเรือนไทยภาคกลางที่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นแบบอย่างของสถาปัตยกรรมเรือนไทยชั้นครูที่ยังคงลักษณะของเรือนไทยภาคกลาง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อรักษาศิลปะบ้านไทยแบบโบราณและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีขึ้นพระตำหนักใหม่ เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2454 พระองค์ได้ประทับแรม ณ พระตำหนักองค์นี้เป็นเวลา 1 คืน และเมื่อมีการซ้อมรับเสือป่า พระตำหนักองค์นี้ใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่าราบหนักรักษาพระองค์ ปัจจุบัน ภายในพระตำหนักใช้จัดแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจด้านไทยศึกษาของพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

0 Comments:
Post a Comment
<< Home